วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เพลงยามเย็น

เพลงพระราชนิพนธ์ “ยามเย็น” “LOVE AT SUNDOWN” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสกับคณะกรรมการของสมาคมดนตรีแห่ง ประเทศไทย ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายเงินเพื่อสมทบทุน “โครงการพัฒนาตามพระราชประสงค์” ณ ศาลาดุสิดาลัย เมื่อวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2524 ว่า“เพลง ‘ยามเย็น’ เพลงที่สองนั้นนะ เป็นเพลงพี่ของเพลง ‘สายฝน’ แก่เดือนไป 1 เดือน เขาเกิดเดือนเมษายน (2489)” ทรงพระราชนิพนธ์เพลง “ยามเย็น” ตั้งแต่ยังทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช และโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงประพันธ์คำร้องภาษาไทย และศาสตราจารย์ท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษ เพลงพระราชนิพนธ์ “ยามเย็น” เป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกที่พระราชทานให้นำออกบรรเลงในงานของสมาคม ป้องกันวัณโรค เป็นเพลงในจังหวะฟ็อกซ์ทร็อต เหมาะสำหรับการเต้นรำของคนไทยในสมัยนั้น จึงเป็นที่ประทับใจพสกนิกรมาก และกลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมทันที แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสว่า “เพลง ‘ยามเย็น’ นี้เป็นที่รู้จัก แต่ไม่โด่งดังเหมือน ‘สายฝน’ “


เพลง ยามเย็น  

บทเพลงพระราชนิพนธ์ ประพันธ์คำร้องโดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ  
ขับร้องโดย ธานินทร์ อินทรเทพ
แดดรอนรอน
เมื่อทินกรจะลับเหลี่ยมเมฆา
ทอแสงเรืองอร่ามช่างงามตา
ในนภาสลับจับอัมพร

แดดรอนรอน
เมื่อทินกรจะลาโลกไปไกล
ยามนี้จำต้องพรากจากดวงใจ
ไกลแสนไกลสุดห่วงยอดดวงตา

แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน
ทุกวันคืนรื่นอุรา
ต้องอยู่เดียวเปลี่ยววิญญาณ์
เหมือนดังนภาไร้ทินกร

แดดรอนรอน
หากทินกรจะลาโลกไปไกล
ความรักเราคงอยู่คู่กันไป
ในหัวใจคงอยู่คู่เชยชม

แดดรอนรอน
หมู่มวลภมรบินลอยล่องตามลม
คลอเคล้าพฤกษาชาติชื่นเชยชม
ชมสมตามอารมณ์ล่องเลยไป

ลิ่วลมโชย
กลิ่นพรรณไม้โปรยโรยร่วงห่วงอาลัย
ยามสายัณห์พลันพรากจากดวงใจ
คอยแสงทองวันใหม่กลับคืนมา

แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน
ทุกวันคืนชื่นอุรา
ต้องอยู่เดียวเปลี่ยววิญญาณ์
เหมือนดังนภาไร้ทินกร

โอ้ยามเย็น
จวบยามนี้เป็นเวลาสุดอาวรณ์
ยามไร้ความสว่างห่างทินกร
ยามรักจำจะจรจากกันไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น